ปฏิทินอัจฉริยะบนโลกออนไลน์ ตอน ๒
(Google Calendar)
ในขณะที่กระแสความรุนแรงทางการเมืองไทย..นับวันยิ่งจะทวีความร้อนระอุองศาถึงจุดเดือดปุ๊ดๆๆ...ขนาดต้องวิ่งไล่ต่อยหัวหน้าพรรคบางพรรค(รักประเทศไทย) ในวันเลือกตั้งเลยทีเดียว..จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าท่าน "สร้างภาพ"อะป่าว เพราะท่านไม่ได้แจ้งความดำเนินคดีอะไรเลย เพราะคิดว่ากฏหมายไว้ใจไม่ได้และบอกว่าผมเป็นลูกผู้ชายพอ... แต่เอ...สาเหตุที่คนเค้าวิพากษ์ว่าท่านสร้างภาพ เพราะโดยปกติท่านมักจะมีภาพมาแฉในสภาอยู่เรื่อยๆอะป่าว มีทั้งแบบแอบถ่ายและตั้งใจถ่าย (ที่ลูกผู้ชายเค้าทำกันรึป่าว...อันนี้ไม่รู้นะ) เอ้า..ก็ว่ากันไปนะครับ..ผมแค่เหย้าเล่นอย่าโกรธกันนะครับ ผมก็เป็นแฟนคลับท่านเหมือนกัน...และรักในความเป็นแมนของท่านเหมือนกัน..อันนี้พูดจริงๆ..อิอิ
จึงทำให้หลายๆคนต้องถือโอกาสพักผ่อนบ้าง ช่วยชาติบ้าง อยู่บ้านบ้าง ปั่นงานบ้าง แตกต่างกันออกไปตามวิถีชีวิตทำมาหากินของแต่ละคนที่เหลืออยู่ในช่วงเวลาสั้นๆของชีวิต จนบางทีทำให้เราลืมไปว่าตนเองจะไม่ "ชราภาพ" รึยังไง บางคนก็ออกตัวว่า "ถ้าข้าไม่อยู่เสียแล้ว ลูกหลานจะได้เอ่ยถึงบ้าง" ขนาดนั้นๆ
สำหรับข้าพเจ้าแล้วขอสรุปง่ายๆ ตามแนวทางของตนเองว่า "การที่คนอื่นเห็นต่างจากตน..ก็ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นเค้าไม่รักประเทศไทย" ผมเชื่อแค่นี้ เริ่มเย็นลงบ้างยัง.....เออ...เออ..ถ้ายังไม่เย็นใจอีก..เดี๋ยวพาไปจุดเทียนสันติภาพซะดีไหม?
เอาหละครับ..เข้าสู่เนื้อหากันดีกว่า
ก่อนอื่นอยากให้ดู ทริปนี้ก่อนครับการพัฒนาของ Google ในประเทศไทย
ไม่อยากพูดคำว่า "เสียดาย" แต่มันเสียดายจริงๆ ครับพี่น๊อง... เสียดายกับสิ่งดีๆที่ค่ายออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Google เค้าพยายามมอบให้กับพวกเรามาตั้งแต่สมัยคอมพิวเตอร์เกิดในยุคแรกๆด้วยซ้ำ จนถึงปานนี้คนก็ยังไม่ฉลาดพอที่จะเรียนรู้และเอามันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด Googleเค้าจึงเปลียนวิธีนำเสนอมาเป็นแบบยัดเยียดแทนซะเลย(ผมคิดเอง..ที่จริงมันก็คือการตลาด).... ท่านซื้อโทรศัพท์หน้าตาดีทุกวันนี้(Smart Phone) มันจะแถม Apps หลักๆ ไว้ให้ใช้ซะเลย
ถ้าจะถามว่า "ใช้ผลิตภัณฑ์Googleแล้วมันทำให้ผมฉลาดขึ้นไหม..งานเสร็จเร็วขึ้นไหม..ทำงานเก่งขึ้นไหม" ผมตอบได้เลยคำเดียวนะครับว่า "ไม่" การเก่งงานคงไม่ได้หมายความว่าต้องอาศัยสิ่งต่างๆบนโลกออนไลน์เข้ามาช่วยเสมอไป แต่สิ่งที่ได้จากการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้คือ
"ความสะดวกสะบาย ความรวดเร็วในการทำงานร่วมกัน การเข้าถึงข้อมูลร่วมกัน รวมถึงลดความผิดพลาดในการติดตามงาน"
จากประสบการณ์ที่ผมนำมาประยุกต์ใช้..เค้า(Google)จะช่วยในสิ่งเหล่านี้ซะส่วนใหญ่ หน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ คงไม่ใช่หน่วยแรกที่โชคดีกระมัง...ที่จะนำเทคโนโลยีของ Googleเข้ามาประยุกต์ทำงานในองค์กร ก็ต้องขอชื่นชมผู้บริหารระดับสูงด้าน IT(ระดับผู้อำนวยการศูนย์)ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่มองเห็นความสำคัญในการทำงานบนโลกปัจจุบันและมองไปถึงอนาคต กำลังผนวกโลกเทคโนโลยีเครือข่ายมาใช้แทนแบบ Intranetแบบเดิมๆ อดใจรออีกไม่นาน
แต่ตอนนี้...เรามาพร้อมเรียนรู้ความอัจฉริยะของ Google Calendar ล่วงหน้าไว้เลยครับ จากบทความตอนที่ ๑ ยังไม่ได้เข้าเนื้อหาเลยยังวนเวียนอยู่กับเรื่องของGmail แล้วก็เหนื่อยและพักไปเฉยๆ (ย้อนหลังตอนที่ ๑) พอมาถึงตอนที่ ๒ ขอเข้าสู่เนื้อหาไปเลยหละกัน ก่อนอื่นต้องมารู้ก่อนว่า Google Calendar เค้าอัจฉริยะยังไงบ้าง ผมสรุปโดยคร่าวๆ ตามนี้
๑.สามารถสร้างปฏิทินและแชร์ปฏิทินได้อย่างไม่จำกัดใน Account เดียว หมายความว่าท่านสามารถสร้างปฏิทินขึ้นใช้ได้มากว่า ๑ ปฏิทินใน Userเดียว (สร้างปฏิทินส่วนตัวและปฏิทินแชร์ร่วมกันในหน่วยงาน)
เรามาเริ่มขั้นตอนต่างๆ แบบเข้าใจง่ายๆสไตล์หน่องๆ กันเลยดีกว่าครับ ตามขั้นตอนดังนี้
๑. การตั้งค่าพื้นฐาน
๒.การตั้งค่าการแจ้งเตือนผ่านมือถือและ SMS
๓.การตั้งค่าการเขียนปฏิทิน
๔.การตั้งค่า Extension ที่นำมาใช้ (Extension ลำดับที่ ๕)
๕.การใช้ shortcut Google Carlendar
๖.การนำ Code ปฏิทินไปแสดงปฏิทินในหน้าเว็บอื่นๆ
๑.ขั้นตอนการตั้งค่าพื้นฐาน
หรือตั้งค่าอีกทางหนึ่ง
๒.ขั้นตอนการสร้างและการแจ้งเตือน
กลับไปที่เมนู "ปฏิทิน" แล้วก็เลือก "การแจ้งเตือนและการแจ้งให้ทราบ"
ไม่อยากพูดคำว่า "เสียดาย" แต่มันเสียดายจริงๆ ครับพี่น๊อง... เสียดายกับสิ่งดีๆที่ค่ายออนไลน์ยักษ์ใหญ่อย่าง Google เค้าพยายามมอบให้กับพวกเรามาตั้งแต่สมัยคอมพิวเตอร์เกิดในยุคแรกๆด้วยซ้ำ จนถึงปานนี้คนก็ยังไม่ฉลาดพอที่จะเรียนรู้และเอามันมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด Googleเค้าจึงเปลียนวิธีนำเสนอมาเป็นแบบยัดเยียดแทนซะเลย(ผมคิดเอง..ที่จริงมันก็คือการตลาด).... ท่านซื้อโทรศัพท์หน้าตาดีทุกวันนี้(Smart Phone) มันจะแถม Apps หลักๆ ไว้ให้ใช้ซะเลย
ถ้าจะถามว่า "ใช้ผลิตภัณฑ์Googleแล้วมันทำให้ผมฉลาดขึ้นไหม..งานเสร็จเร็วขึ้นไหม..ทำงานเก่งขึ้นไหม" ผมตอบได้เลยคำเดียวนะครับว่า "ไม่" การเก่งงานคงไม่ได้หมายความว่าต้องอาศัยสิ่งต่างๆบนโลกออนไลน์เข้ามาช่วยเสมอไป แต่สิ่งที่ได้จากการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้คือ
"ความสะดวกสะบาย ความรวดเร็วในการทำงานร่วมกัน การเข้าถึงข้อมูลร่วมกัน รวมถึงลดความผิดพลาดในการติดตามงาน"
จากประสบการณ์ที่ผมนำมาประยุกต์ใช้..เค้า(Google)จะช่วยในสิ่งเหล่านี้ซะส่วนใหญ่ หน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ คงไม่ใช่หน่วยแรกที่โชคดีกระมัง...ที่จะนำเทคโนโลยีของ Googleเข้ามาประยุกต์ทำงานในองค์กร ก็ต้องขอชื่นชมผู้บริหารระดับสูงด้าน IT(ระดับผู้อำนวยการศูนย์)ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ที่มองเห็นความสำคัญในการทำงานบนโลกปัจจุบันและมองไปถึงอนาคต กำลังผนวกโลกเทคโนโลยีเครือข่ายมาใช้แทนแบบ Intranetแบบเดิมๆ อดใจรออีกไม่นาน
แต่ตอนนี้...เรามาพร้อมเรียนรู้ความอัจฉริยะของ Google Calendar ล่วงหน้าไว้เลยครับ จากบทความตอนที่ ๑ ยังไม่ได้เข้าเนื้อหาเลยยังวนเวียนอยู่กับเรื่องของGmail แล้วก็เหนื่อยและพักไปเฉยๆ (ย้อนหลังตอนที่ ๑) พอมาถึงตอนที่ ๒ ขอเข้าสู่เนื้อหาไปเลยหละกัน ก่อนอื่นต้องมารู้ก่อนว่า Google Calendar เค้าอัจฉริยะยังไงบ้าง ผมสรุปโดยคร่าวๆ ตามนี้
๑.สามารถสร้างปฏิทินและแชร์ปฏิทินได้อย่างไม่จำกัดใน Account เดียว หมายความว่าท่านสามารถสร้างปฏิทินขึ้นใช้ได้มากว่า ๑ ปฏิทินใน Userเดียว (สร้างปฏิทินส่วนตัวและปฏิทินแชร์ร่วมกันในหน่วยงาน)
๒.สามารถพิมพ์รายงานข้อมูลปฏิทินออกมาเป็นเอกสารได้
๓.สามารถใช้ร่วมกับโทรศัพท์มือถือหน้าตาดี (Smart Phone) ทุกชนิด
๔.สามารถแจ้งเตือนข้อความปฏิทินโดยส่ง SMS เข้ามือถือของเราได้เมื่อถึงกำหนดตามปฏิทิน ให้บริการฟรีทุกเครือข่าย (เท่าทีใช้ด้วยตนเองมา) ท่านจะไม่พลาดโอกาสหรือกิจกรรมสำคัญๆ
๕.สามารถตรวจสอบวันว่าง/ไม่ว่างและการเข้าร่วมประชุมของคณะกรรมการในหน่วยงานได้ การส่งจดหมายเชิญผ่านปฏิทินออนไลน์
๖.สามารถนำเอาปฏิทินไปแปะไว้ในหน้าหลักเว็บไซต์ หรือบล็อกใดก็ได้ เพื่อการตรวจสอบกิจกรรม Update งานร่วมกันในหน่วยงาน
๗.สามารถแบคอัพข้อมูล(กันความผิดพลาด)ในปฏิทินมาเก็บไว้ได้ในไดร์ฟต่างๆ
๘.สามารถแนบไฟล์งานสำคัญๆไว้ในปฏิทินได้เลย เพื่อการตรวจสอบย้อนหลังการใช้ปฏิทิน โดยไม่ต้องสืบค้นหาไฟล์งานให้เสียเวลา
๙.สามารถแจ้งภาระงานเข้าอีเมล์หรือป๊อบอัพหน้าจอ Desktop ได้เลย
...เอาหละครับ...
เรามาเริ่มนับหนึ่งประเทศไทยกันเลยดีกว่าครับ..เอ้าเฮ้ยไม่ใช่
เรามาเริ่มขั้นตอนต่างๆ แบบเข้าใจง่ายๆสไตล์หน่องๆ กันเลยดีกว่าครับ ตามขั้นตอนดังนี้
๑. การตั้งค่าพื้นฐาน
๒.การตั้งค่าการแจ้งเตือนผ่านมือถือและ SMS
๓.การตั้งค่าการเขียนปฏิทิน
๔.การตั้งค่า Extension ที่นำมาใช้ (Extension ลำดับที่ ๕)
๕.การใช้ shortcut Google Carlendar
๖.การนำ Code ปฏิทินไปแสดงปฏิทินในหน้าเว็บอื่นๆ
๑.ขั้นตอนการตั้งค่าพื้นฐาน
หรือตั้งค่าอีกทางหนึ่ง
หลังจากนั้นเราก็กำหนดค่าพื้นฐานต่างๆได้ตามใจชอบ
๑.๑ เมนูทั่วไป
เช่น ๑. ตั้งค่ารูปแบบวันที่ หรือ ๒. กำหนดวันแรกของสัปดาห์เป็นวันอาทิตย์ เป็นต้น
๑.๒ เมนู "ปฏิทิน"
กำหนดค่าปฏิทิน
- กำหนดค่าการ"แจ้งเตือน" (การกำหนดตั้งค่าอยู่เมนูถัดไป)
- เมนูการ "ตั้งค่าอุปกรณ์คลื่อนที่"
กลับไปที่เมนู "ปฏิทิน" แล้วก็เลือก "การแจ้งเตือนและการแจ้งให้ทราบ"
หลังจากนั้นก็กำหนดค่าการแจ้งเตือน การแจ้งเตือนนี้จะเป็นค่ามาตรฐานตลอดไป คุณสามารถเปลี่ยนแปลงได้เฉพาะที่ต้องการระบุแต่ละครั้งก็ได้